ผู้นำ คือ ผู้ที่สามารถพูดให้ผู้อื่นเข้าใจในความคิดและเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนได้
ในการทำงานเป็นนักธุรกิจเครือข่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วก็คือ “การพูด” เพราะจะต้องพูดอยู่ตลอดเวลา ทั้งการนำเสนอสินค้า แผนการตลาด ชักชวน เชิญชวน ให้ผู้มุ่งหวังเกิดความเห็นดีเห็นงาม คล้อยตาม เพื่อที่จะตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับเรา ผู้ที่มีความสามารถในการพูด จึงได้ชื่อว่า มีโอกาสในการสร้างความสำเร็จให้ก้าวหน้ารวดเร็วกว่าผู้อื่น แล้วพูดอย่างไรล่ะ จึงได้ชื่อว่า “ทำงานด้วยการพูด”?
การทำงาด้วยการพูด คือการใช้ถ้อยคำหรือวิธีการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเอื้ออำนวยให้เกิดความสำเร็จในงานการขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก ซึ่งคงจะได้มีโอกาสค่อย ๆ นำเสนอในโอกาสต่อ ๆ ไป แต่ในฉบับนี้ ผู้เขียนขอให้หลักสัก 3 ประการที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานด้วยการพูดให้กับท่านนักขายคือ การพูดอย่างมีระบบ งานทุกงานจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องอาศัยคำว่า “ระบบ” เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าระบบดีแล้ว การทำงานย่อมเป็นไปตามเป้าหมาได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นมีการทำงานได้อย่างเป็นรูปแบบมาตรฐาน เดียวกันได้ด้วย เช่น ระบบการเบิกจ่ายสินค้า คอมมิชชั่น การส่งรหัส การตรวจสอบสายงาน การขึ้นตำแหน่ง รวมถึงระบบการนำเสนอการขายหรือการสร้างเครือข่าย
แต่เราลืมส่วนที่เรียนกว่า “ระบบการพูด” หรือเปล่า เพราะการพูดอย่างมีระบบทำให้เรามีความเหนื่อยน้อย แต่ได้ผลงานมาก หรือได้ความสำเร็จมาก และง่ายกว่าที่เป็นอยู่อีกด้วย ระบบการพูดจึงเป็นส่วนที่นักขายไม่ควรจะมองข้ามแม้แต่นิดเดียว ยกตัวอย่างเช่น ความแตกต่างของมวยวัดกับมวยมีค่าย นักมวยสองคนเป็นผู้ที่มีความเป็นนักมวยเหมือนกัน มีความเก่งพอ ๆ กัน และก็มีหมัดที่หนักหน่วงพอกัน แต่ต่างกันที่ชั้นเชิงและรูปแบบการชก นักมวยวัด จะชกเก่งอย่างไร ก็เหนื่อยมากและค่าตัวก็ไม่สูง เพราะไม่มีรูปมวย แม้หมัดหนักแต่ต้องอาศัยการเหวี่ยงหมัดเป็นร้อย จนกว่าจะได้หมัดที่เข้าเป้าจัง ๆ สักหมัด จึงจะน๊อคคู่ต่อสู้ได้ ซึ่งอาจจะต้องออกหมัดเป็นร้อย แต่นักมวยที่มีค่าย มีรูปมวยที่สวยงาม มีการออกหมัดและรูปแบบการชกที่ถูกต้องเป็นมาตรฐาน เขาไม่ต้องอาศัยการปล่อยหมัดเป็นร้อย แต่อาศัยการโยกตัวหลบคู่ต่อสู้ ดูชั้นเชิง และหาจังหวะในการปล่อยหมัด ซึ่งอาจจะปล่อยหมัดเพียง 30-40 หมัดเท่านั้น และอาศัยจังหวะบวก ซึ่งทำให้หมัดหนักขึ้นเป็น 2 เท่า ก็สามารถน๊อคคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน
การทำงานของนักขายก็เช่นกัน อุปกรณ์หลักที่เราต้องใช้อยู่เป็นประจำ และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานก็คือ ปาก หรือ การพูด ซึ่งเราจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการใช้การพูดอย่างเป็นระบบที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดผลิตผลสูงสุด แต่เหนื่อยน้อยหรือเท่ากับผู้อื่น การพูดที่เป็นระบบเป็นอย่างไร ? เป็นการพูดที่มีความถูกต้องเป็นมาตรฐาน สามารถนำไปใช้ในเบื้องต้นกับทุกคนได้ เช่น การพูดโดยอาศัยโครงสร้างในการพูด คือ ต้องมีคำนำ มีสาระ และมีส่วนสรุป เพราะคนส่วนมากเวลาจะพูดกับใครก็มักจะนำเข้าสาระในการพูดเลย โดยไม่มีการหยั่งดูก่อนว่า เขาต้องการฟังหรือเขาอยากจะฟังหรือเปล่า หรือการพูดไม่มีการเรียงร้อยถ้อยคำเป็นประโยคในการพูด ได้อย่างสละสลวย กินใจ เป็นลำดับขั้นตอน ทำให้เกิดความเข้าใจง่าย ๆ และเป็นหลักเหตุผลที่ทำให้เขาเห็นด้วย คล้อยตามกับสิ่งที่เรานำเสนอ เช่น บอกว่า “ถ้าร่วมทำธุรกิจกับเราแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสู่ความสำเร็จเป็น เศรษฐีได้ในเวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น” แต่ไม่ได้บอกให้เขาสามารถเข้าใจได้ว่า เส้นทางในการเดินทางไปสู่การเป็นเศรษฐีนั้นเดินไปอย่างไร
คำพูดเพียงหนึ่งคำ สามารถสร้างจินตนาการในใจได้อย่างมหาศาล เพราะฉะนั้นถ้าเรามีระบบในการใช้ถ้อยคำในการพูดอย่างถูกต้อง สามารถเป็นแรงผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ขอยกตัวอย่างในการใช้ถ้อยคำแล้วกัน เช่นทั่วไปเวลาเชิญเขาทำธุรกิจกับเรา ก็อาจจะลงท้ายว่า “คุณคิดว่าคุณจะสมัครหรือเปล่าครับ” หรือ “คิดว่าจะรับสินค้าไว้ใช้หรือรับประทานสักขวดไม๊ครับ” แต่ถ้าเรามีการใช้การพูดอย่างมีระบบ จะพบว่า พูดแบบนี้มีโอกาสที่เขาจะปฏิเสธมากกว่าที่จะตอบรับ ก็ควรจะพูดใหม่ว่า “คิดว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กับตัวเองในการสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งโอกาสนี้อาจจะมีไม่บ่อยครั้ง และถ้าช้าไปกว่านี้เราอาจจะต้องเสียดาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตัดสินใจวันนี้หรือพรุ่งนี้เท่านั้นแหละ แต่ถ้าเป็นผม อยากให้คุณตัดสินใจวันนี้เลย เพียงแต่ว่า เราจะเลือกแบบเล็กหรือใหญ่เท่านั้นแหละครับ” เป็นต้น ศาสตร์การพูดต้องใช้อย่างเป็นระบบแล้วจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่าย ขึ้น ต้องศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมนะครับ เพราะจำเป็นต่อการทำงานของเราเป็นอย่างดี ส่วนอีก 2 ประการเรามาตามต่อฉบับหน้านะครับ
ก่อนจากกันฉบับนี้ขอฝากข้อคิดนักขาย จาก ร้อยเอก ศ.ดร.จิตรจำนงค์ สุภาพ เกี่ยวกับการทำงานด้วยการพูดว่า “หากบุคคลระดับผู้นำ ขาดสมรรถภาพทาบงการพูดที่ดีเสียแล้ว เขายังไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำนักบริหารหรือนักปกครองที่แท้จริง”
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 6 ฉบับที่ 138 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2551